• กลยุทธ์ในการนำข้อมูลและสถิติต่างๆ ไปประยุกต์ใช้
• การวิเคราะห์ Keyword
• การพัฒนาและออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure)
– Structure
URLs correctly
– Design
a sitemap
– About
us
– Privacy
Policy
กลยุทธ์ในการนำข้อมูลและสถิติต่างๆ ไปประยุกต์ใช้
การเก็บค่าสถิติและข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์มีทัง้ หมด 4 ระบบ ได้แก่
• ระบบ Hit counter
• ระบบ Page counter
• ระบบ Web counter
• ระบบ Tracking
ระบบ Hit counter
• เป็นระบบที่ใช้ในการนับ และจัดแสดงจำนวนครัง้ ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์เข้าชมหน้าใดหน้าหนึ่งของเว็บไซต์
• ส่วนใหญ่แล้วจะถูกติดตัง้ ในหน้าแรกของเว็บไซต์
• ระบบ hit counter มีรูปแบบการจัดแสดงผล 2 รูปแบบด้วยกัน คือ
– จัดแสดงผลโดยเปิดเผยให้ผู้เข้าเว็บไซต์ได้ทราบ
– ปกปิดไว้เป็นความลับ ซึ่งจะมีเพียงเว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์เท่านัน้ ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลและสถิติข้างต้นได้
• โดยที่ระบบ hit counter จะทำการจัดเก็บข้อมูลและสถิติดังกล่าวโดยนับจากจำนวนครั้งของการร้องขอของบราวเซอร์ไปยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อเปิดหน้าเว็บไซต์
ข้อดีและข้อเสียของระบบ hit counter
- สามารถดาว์นโหลดระบบมาใช้งานโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
- ทำการติดตัง้ ระบบได้ง่าย รวมทัง้ มีรูปแบบกราฟิกที่ใช้ในการแสดงผลที่หลากหลาย สามารถที่จะเลือกใช้รูปแบบกราฟิกที่ใช้ในการแสดงผลให้สอดคล้อง และเหมาะสมกับภาพลักษณ์ หรือองค์ประกอบของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
- แต่ระบบ hit counter ไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่า มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ไม่ซ้ำกัน(unique visitor) จำนวนเท่าใด และใช้ระยะเวลาในการเข้าชมเว็บไซต์นานเท่าใด ซึ่งข้อมูลและสถิติต่างๆ เหล่านี้จะทำให้คุณไม่สามารถทำการวิเคราะห์ต่อไปในระยะยาวได้ว่า ควรจะมุ่งเน้นทำการตลาดให้กับเว็บไซต์ไปในทิศทางใด
ระบบ Page counter
• ระบบ page counter มีหลักการทำงานเช่นเดียวกันกับระบบ
hit counter คือ เป็นระบบที่ใช้ในการนับ และจัดแสดงจำนวนครัง้ ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์เข้าชมหน้าใดหน้าหนึ่งของเว็บไซต์
• ข้อแตกต่างระหว่างระบบ page counter กับระบบ hit
counter มีเพียงประการเดียวเท่านัน้ ซึ่งก็คือ ระบบ page counter ได้รับการติดตัง้ ลงในหน้าเว็บไซต์ได้มากกว่า 1 หน้าต่อ 1 เว็บไซต์ ในขณะที่ระบบ hit counter ได้รับการติดตัง้ ลงในหน้าเว็บไซต์ได้เพียงแค่
1หน้าเท่านัน้ ต่อ 1 เว็บไซต์
ระบบ Web counter
• ระบบ web counter ก็เป็นระบบที่มีหลักการทำงานเช่นเดียวกันกับระบบ hit counter และระบบ page counter โดยจะเป็นระบบที่ทำการรวมบรรทัดของโปรแกรมเข้ากับกราฟิกเพื่อนับ และจัดแสดงจำนวนครัง้ ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์เข้าชมหน้าใดหน้าหนึ่งของเว็บไซต์ ซึ่งระบบดังกล่าวอาจจะถูกติดตัง้ ลงในหน้าเว็บไซต์มากกว่า 1 หน้าต่อ 1 เว็บไซต์ก็เป็นได้
• ในปัจจุบันระบบ web counter ของเว็บไซต์บางแห่งก็ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานได้ใกล้เคียงกับระบบ tracking มากขึน้ โดยสามารถนับ และจัดแสดงจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ และจำนวนหน้าเว็บไซต์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์เข้าชมได้พร้อมกัน
• ยกตัวอย่างเช่น มีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ 200 คน และเข้าชมหน้าเว็บไซต์ทัง้ หมด 345 หน้า นอกจากนียั้งสามารถช่วยให้คุณทำการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ได้เช่นเดียวกับระบบ tracking อีกด้วย เพราะระบบ web counter ของเว็บไซต์บางแห่งก็สามารถทำให้คุณได้ทราบว่า หน้าเว็บไซต์หน้าใดของคุณ ที่ได้รับความนิยม ในการเข้าชมจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากที่สุด
ระบบ Tracking
• เป็นระบบที่ใช้โค้ดจาวาสคริปทำงาน ให้มีการสร้าง cookies ไว้ยังเครื่องของผู้เข้าชม และ จะทำการตรวจสอบ cookies ในบราวเซอร์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์รายนัน้ ๆ ถ้าในกรณีที่ค้นพบ cookies แสดงว่า ผู้เข้าชมเว็บไซต์รายนัน้ เป็นผู้เข้าชมเว็บไซต์รายเดิม ซึ่งบริการ trackingจะทำการจัดเก็บข้อมูลและสถิติต่างๆ ของการเข้าชมเว็บไซต์ในครั้งรวมกับการเข้าชมก่อนหน้านี้แล้วทำการจัดแสดงในรูปแบบเส้นทางการเข้าชมเว็บไซต์ โดยต้องติดตั้งลในหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการเก็บค่าสถิติ
ความแตกต่างของระบบ Tracking
• ระบบ tracking จะมีข้อแตกต่างจากระบบ hit
counter ระบบ page
counter และระบบ web counter คือจะทำการจัดแสดงผลการติดตามพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบหน้าต่อหน้า หรืออาจจะเรียกได้ว่า จัดแสดงในรูปแบบ เส้นทางการเข้าชมเว็บไซต์
• สามารถจัดเก็บข้อมูลและสถิติต่างๆ ของเว็บไซต์ และผู้เข้าชมเว็บไซต์เช่น พฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ และข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ละเอียดมากกว่า และสามารถตรวจสอบได้ว่า ผู้เข้าชมเว็บไซต์แต่ละรายนัน้ เป็นผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ไม่ซำ้ กัน (unique visitor)
วิธีการนำข้อมูลและสถิติต่างๆ จากบริการ tracking ไปประยุกต์ใช้กับเว็บไซต์
• ข้อมูลและสถิติต่างๆ ที่คุณได้รับจากบริการ tracking จะช่วยให้สามารถกำหนดเป้าหมายให้กับเว็บไซต์ได้อย่างเหมาะสม โดยใช้กระบวนการดังต่อไปนีใ้ นการทดสอบความพึงพอใจของผู้เข้าชมเว็บไซต์:
1. ศึกษาข้อมูลและสถิติต่างๆ ของเว็บไซต์
2. คิดค้นกลยุทธ์
3. นำกลยุทธ์ที่คิดค้นได้มาพัฒนาเว็บไซต์
4. วัดประสิทธิภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึน้
5. เริ่มต้นที่ขั้น ตอนที่ 1 อีกครั้ง
การพัฒนาและออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ (Site
Structure)
• ในการออกแบบเว็บไซต์สิ่งที่สำคัญอีกประการคือ โครงสร้างเว็บไซต์ ที่มีการกำหนดขอบเขต และรูปแบบไว้อย่างชัดเจน
• ผู้เข้าชมเว็บไซต์มีความเข้าใจการใช้งานได้ง่าย
• ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลง และการเพิ่มหน้าเว็บเพจ
ลักษณะของเว็บที่มีโครงสร้างที่ดี
1. มีการกำหนดขอบเขตของเว็บไซต์อย่างชัดเจน เช่น หากเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จะมีเนือ้ หาที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เท่านั้นไม่สร้างลิงค์ไปยังเว็บที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น รถยนต์หรือ การจัดสวน
2. ควรมีการจัดทำ Sitemap สำหรับเว็บไซต์ มีไฟล์ sitemap.html หรือ sitemap.php Sitemaps.com นอกจากนัน้ sitemap ยังช่วยให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ค้นหาหน้าเว็บได้สะดวกมากขึ้น
3 เว็บไซต์ควรมีข้อมูลของบริษัท หรือ เมนู about us ซึ่งจะประกอบไปด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับ
• วิสัยทัศน์ พันธกิจ ประวัติขององค์กร
• ผู้จัดทำ หรือทีมงานที่พัฒนาเว็บไซต์
• ข้อมูลการติดต่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
• ซึ่งควรมีลิงค์ไว้บนหน้าแรกของเว็บไซต์ทัง้ ในส่วนหัว และท้ายเว็บไซต์
ดังเช่นเว็บไซต์ www.seomoz.org
4. ควรมีการกำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)เพื่อเป็นการรับประกันเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ที่ทางเว็บไซต์ได้รับไปโดยมีเว็บไซต์ที่ช่วยสร้าง
5. เนื้อหาบนเว็บไซต์ที่ทันสมัยตลอดเวลา มีการอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น